IELTS Test Preparation
ข้อแนะนำในการเตรียมสอบไอเอลท (IELTS)
การสอบ IELTS เป็นการสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษของผู้สมัครที่ต้องการเข้าศึกษาต่อหรือทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลาง โดยจะทดสอบทักษะการฟัง พูด อ่าน และเขียนภาษาอังกฤษ
โดยผลของการสอบ IELTS นั้นเป็นที่ยอมรับจากองค์กรกว่า 9,000 แห่ง ครอบคลุมทั้งองค์กรภาครัฐ สถานศึกษา และสถาบันชั้นนำ รวมทั้งสถาบัน 3,300 แห่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ IELTS ยังเป็นบททดสอบภาษาอังกฤษสำหรับการสมัครเป็นประชากรแคนาดาด้วย
โดยผลของการสอบ IELTS นั้นเป็นที่ยอมรับจากองค์กรกว่า 9,000 แห่ง ครอบคลุมทั้งองค์กรภาครัฐ สถานศึกษา และสถาบันชั้นนำ รวมทั้งสถาบัน 3,300 แห่ง ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ IELTS ยังเป็นบททดสอบภาษาอังกฤษสำหรับการสมัครเป็นประชากรแคนาดาด้วย
Where can I take IELTS?
ศูนย์สอบ IELTS นั้นมีอยู่กว่า 1,100 แห่งทั่วโลก โดยศูนย์สอบส่วนใหญ่นั้นจะถูกดำเนินการโดย British Council IELTS Australia มหาวิทยาลัย หรือโรงเรียนสอนภาษาค่ะ บางศูนย์จะนำเสนอการจัดการสอบนอกสถานที่สำหรับการสอบกลุ่มใหญ่ ๆ โดยจะมีการตระเตรียมการสำหรับสอบ IELTS โดยตรงค่ะ น้อง ๆ สามารถติดต่อกับศูนย์สอบในพื้นที่ของน้อง ๆ เอง หรือเข้าไปดูรายละเอียดในเว็บไซต์ https://www.ielts.org/ เพื่อหาศูนย์สอบใกล้บ้านน้อง ๆ ได้ค่ะ
ศูนย์สอบในประเทศแคนาดา ได้แก่
ศูนย์สอบในประเทศแคนาดา ได้แก่
- ILSC (International Language School of Canada)
- ILAC (International Language Academy of Canada)
- Global Village
- Kaplan
- และสถาบันอื่น ๆ อีกมากมาย แนะนำให้น้อง ๆ เลือกจากเว็บไซต์ IELTS ค่ะ
IELTS Modules
การสอบ IELTS นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบด้วยกัน ได้แก่
- Academic Modules เป็นการทดสอบความพร้อมในการศึกษาต่อในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ทั้งในระดับ Undergraduate Postgraduate Level หรือ Professional Registration ค่ะ
- General Training Modules เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการวัดความพร้อมเพื่อศึกษาต่อในระดับมัธยม การฝึกอบรมหรือทำงานในต่างประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วข้อสอบจะใช้วัดความรู้ภาษาอังกฤษในระดับพื้นฐาน และจะไม่ซับซ้อนเหมือนกับผู้ที่ต้องการวัดระดับความรู้เพื่อศึกษาต่อในระดับสูง และเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศที่มีภาษาอังกฤษเป็นสื่อกลางค่ะ
The Test Format
การสอบ IELTS นั้นสามารถแบ่งออกเป็น 4 Sections ด้วยกันค่ะ ได้แก่ Reading Writing Listening และ Speaking โดย Speaking Test บางครั้งอาจจะใช้เวลา 1 หรือ 2 วัน หลังจากการสอบ 3 ส่วนแรก ในบางศูนย์ค่ะ
IELTS Listening Test
- Listening Test จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที โดยจะเป็นการเปิดเทปจากวิทยุให้ผู้สอบฟังแล้วตอบคำถาม โดยที่จะเพิ่มระดับความยากขึ้นเรื่อย ๆ ค่ะ
- ในแต่ละ Section อาจจะเป็นแบบ Dialogue หรือ Monologue ค่ะ โดยจะเปิดให้ผู้สอบฟังเพียงรอบเดียวเท่านั้น และแต่ละคำถาม น้อง ๆ ควรตอบระหว่างที่กำลังฟังไปด้วยค่ะ โดยเวลาที่เหลือ น้อง ๆ อาจมีไว้เพื่อเช็คคำตอบอีกครั้งค่ะ
- การสอบ Listening นั้นจะแบ่งออกเป็น 4 Sections ซึ่งแต่ละ Section จะมีคำถาม 10 คำถาม ดังนั้นคะแนนรวมทั้งหมดจะมี 40 คะแนนค่ะ โดยคำถามจะเรียงตามข้อมูลที่ท่านได้ฟัง ดังนั้นท่านควรฟังและตอบคำถามไปพร้อมกันค่ะ เวลา 30 นาทีนั้นจะรวมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นเวลาในการบอก Instructions เวลาทำข้อสอบ เวลาในการตอบคำถามของท่านใน Sheet ค่ะ
IELTS Reading Test
- Reading Test จะใช้เวลาประมาณ 60 นาที โดยการสอบทั้งแบบ Academic และ General นั้นจะให้เกรดในระดับเดียวกัน
- เนื้อหาในการสอบแบบ Academic Reading นั้นจะมีความท้าทายความสารถมากกว่า General
- ใน Reading Test จะมีคำถามรวมทั้งหมด 40 ข้อ โดยจะมี 3 - 4 Passages ที่มีระดับความยากขึ้นเรื่อย ๆ ในแต่ละ Passage ค่ะ โดยน้อง ๆ สามารถ Mark หรือเขียนลงในกระดาษคำถาม แต่น้อง ๆ ต้องพึงระวังเรื่องเวลาว่าน้อง ๆ ไม่มีเวลาสำหรับนำคำตอบมาใส่ลงบน Reading Answer Sheet ภายหลังค่ะ
IELTS Writing Test
- Writing Test จะใช้เวลาทั้งหมด 60 นาทีโดยการสอบทั้ง 2 แบบนั้นจะเหมือนกันตรงที่ผู้สอบจะต้องเขียนทั้งหมด 2 Writing Tasks ด้วยกัน เช่น Description, Report, Discussion, Argument, Opinion Text เป็นต้น
- IELTS Writing Task 1 ในส่วนของ Task แรก น้อง ๆ อาจจะต้องอธิบายข้อมูลจากภาพที่ท่านได้รับ โดยเขียนออกมาเป็นรูปแบบของ Descriptive report อย่างต่ำ 150 Words จากข้อมูลที่มีให้ค่ะ
- IELTS Writing Task 2 ใน Task นี้ น้อง ๆ จำเป็นที่จะต้องเขียน Written Argument ตาม Topic ที่ได้มานะคะ โดยน้อง ๆ ควรตอบคำให้ชัดเจนและสร้างความเข้าใจได้ง่ายค่ะ อาจจะยกตัวอย่างเพื่อมาสนับสนุนความคิดเห็นของน้อง ซึ่งน้อง ๆ จำเป็นต้องเขียนอย่างน้อยประมาณ 250 Words โดย Task 2 จะยาวกว่า Task 1 ดังนั้นจึงขอแนะนำให้ท่านใช้เวลากับ Task 2 ประมาณ 40 นาที และ 20 นาทีสำหรับ Task แรกค่ะ
IELTS Speaking Test
- Speaking Test จะเป็นแบบการสอบพูดกับอาจารย์ผู้ทำการสอบ ควรพูดให้ชัดเจนและตอบให้ตรงคำถามค่ะ
- คำถามแบ่งออกเป็น 3 ส่วนด้วยกันค่ะ ประกอบด้วย Introduction and Interview, An Individual Long Turn การให้ผู้สอบเป็นฝ่ายพูด 1-2 นาทีใน Topic ใด Topic หนึ่ง และสุดท้ายจะเป็นแบบ Two-Way Discussion เป็นการสนทนาและโต้ตอบกันกับผู้ทดสอบในหัวข้อที่ผู้สอบพูดถึงในส่วนที่ 2 ค่ะ โดยการสอบส่วนนี้จะใช้เวลาประมาณ 11-14 นาที ค่ะ สำหรับ Part แต่ละ Part สามารถอธิบายรายละเอียดได้ดังนี้ค่ะ
- Part 1 จะใช้เวลาประมาณ 4-5 นาที โดยจะเริ่มต้นในส่วนของ Introduction ค่ะ จากนั้นผู้ทดสอบจะถามน้อง ๆ เกี่ยวกับ Topic ที่ค่อนข้างใกล้ตัวท่าน เช่น การเรียนของน้อง เรื่องงาน งานอดิเรก สิ่งที่น้องให้ความสนใจ เป็นต้น
- Part 2 จะใช้เวลาประมาณ 3-4 นาทีค่ะ ซึ่งทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับผู้สอบว่าคุยมากน้อยแค่ไหนค่ะ โดยน้อง ๆ จะได้รับการ์ดที่มี Topic คล้าย ๆ กัน จากนั้นน้องจะมีเวลา 1 นาที เพื่อทำการเขียนเตรียมสิ่งที่ต้องการพูด จากนั้นน้องจะมีเวลา 2 นาทีเพื่อพูดใน Topic ที่ได้รับค่ะ โดยน้องไม่สามารถเลือก Topic ที่ต้องการพูดได้ แต่การพูดนั้นจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของตัวน้องเอง เช่น บุคคล หรือสถานที่ที่ท่านรู้จัก กิจกรรมหรือเหตุการณ์ที่ท่านเคยได้พบมา เป็นต้น
- Part 3 จะใช้เวลาประมาณ 4-5 นาทีค่ะ คำถามจะต่อเนื่องมาจาก Topic ที่น้องได้รับใน Part 2 ค่ะ โดยน้องสามารถพูดคุยหรือตอบโต้เกี่ยวกับหัวข้อที่ได้รับมาค่ะ อาจจำเป็นต้องเพิ่มมุมมองและความคิดเห็นของน้อง ๆ เข้าไปเพิ่มด้วยค่ะ
IELTS Score Interpretation
ลักษณะของคะแนนในการสอบ IELTS จะถูกแบ่งออกเป็น 9 ระดับ โดยเริ่มต้นที่ตั้งแต่ระดับที่ 1 ไปจนถึงระดับที่ 9 ซึ่งสามารถวัดระดับความรู้ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษของผู้สอบได้อย่างถูกต้องค่ะ
Band Score 9 - Expert User (มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดีเลิศ)
สามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว เหมาะสม ถูกต้องแม่นยำ และมีความเข้าใจในภาษาดีเยี่ยม
Band Score 8 - Very Good User (มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดีมาก)
สามารถใช้ภาษาได้ถูกต้องและคล่องแคล่ว แต่อาจมีข้อผิดพลาดและความไม่เหมาะสมบ้างบางครั้งในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย สามารถถกปัญหาที่ซับซ้อนอย่างมีเหตุผลได้ดี
Band Score 7 - Good User (มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดี)
สามารถใช้ภาษาได้ดีแต่ยังมีความผิดพลาดและเข้าใจผิดในบางโอกาส แต่โดยทั่วไปสามารถใช้ภาษาในลักษณะที่ซับซ้อนได้ดีและเข้าใจในการให้เหตุผลได้ดี
Band Score 6 - Competent User (มีความสามารถในระดับใช้งานได้)
มีความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดและความไม่เหมาะสมในการใช้ภาษาอยู่บ้าง แต่ยังสามรถสื่อสารและเข้าใจภาษาที่ซับซ้อนได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คุ้นเคย
Band Score 5 - Modest User (สามารถใช้ภาษาในระดับปานกลาง)
มีความสามารถในการใช้ภาษาได้บางส่วนและเข้าใจความหมายโดยกว้างในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ยังมีข้อผิดพลาดบ่อย ๆ แต่สามารถสื่อสารในระดับพื้นฐานในเรื่องที่ตนถนัดได้ดี
Band Score 4 - Limited User (มีความสามารถในการสื่อสารอย่างจำกัด)
มีความสามารถในการสื่อสารอย่างจำกัดเฉพาะเรื่องที่ตนคุ้นเคย มีปัญหาในการสื่อสาร การเข้าใจและการแสดงออกทางความคิด และไม่สามารถใช้ภาษาที่ซับซ้อนได้
Band Score 3 - Extremely Limited User (มีความสามารถในการใช้ภาษาที่จำกัดมาก)
รู้และเข้าใจความหมายกว้าง ๆ ในสถานการณ์ที่คุ้นเคยและมีการหยุดชะงักในการสื่อสารบ่อย
Band Score 2 - Intermittent User (ไม่สามารถสื่อสารคำศัพท์ขั้นพื้นฐานได้)
ไม่สามารถสื่อสารเป็นเรื่องเป็นราวได้ พูดได้เป็นคำ ๆ เฉพาะคำคัพท์สั้น ๆ ที่คุ้นเคยเท่านั้น มีปัญหาในการทำความเข้าใจภาษาพูดและภาษาเขียน
Band Score 1 - Non-User (ใช้ภาษาไม่ได้เลย)
ไม่สามารถใช้ภาษาได้นอกจากคำศัพท์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
Band Score 9 - Expert User (มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดีเลิศ)
สามารถใช้ภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว เหมาะสม ถูกต้องแม่นยำ และมีความเข้าใจในภาษาดีเยี่ยม
Band Score 8 - Very Good User (มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดีมาก)
สามารถใช้ภาษาได้ถูกต้องและคล่องแคล่ว แต่อาจมีข้อผิดพลาดและความไม่เหมาะสมบ้างบางครั้งในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย สามารถถกปัญหาที่ซับซ้อนอย่างมีเหตุผลได้ดี
Band Score 7 - Good User (มีความสามารถในการใช้ภาษาได้ดี)
สามารถใช้ภาษาได้ดีแต่ยังมีความผิดพลาดและเข้าใจผิดในบางโอกาส แต่โดยทั่วไปสามารถใช้ภาษาในลักษณะที่ซับซ้อนได้ดีและเข้าใจในการให้เหตุผลได้ดี
Band Score 6 - Competent User (มีความสามารถในระดับใช้งานได้)
มีความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้ว่าจะมีข้อผิดพลาดและความไม่เหมาะสมในการใช้ภาษาอยู่บ้าง แต่ยังสามรถสื่อสารและเข้าใจภาษาที่ซับซ้อนได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่คุ้นเคย
Band Score 5 - Modest User (สามารถใช้ภาษาในระดับปานกลาง)
มีความสามารถในการใช้ภาษาได้บางส่วนและเข้าใจความหมายโดยกว้างในสถานการณ์ส่วนใหญ่ ยังมีข้อผิดพลาดบ่อย ๆ แต่สามารถสื่อสารในระดับพื้นฐานในเรื่องที่ตนถนัดได้ดี
Band Score 4 - Limited User (มีความสามารถในการสื่อสารอย่างจำกัด)
มีความสามารถในการสื่อสารอย่างจำกัดเฉพาะเรื่องที่ตนคุ้นเคย มีปัญหาในการสื่อสาร การเข้าใจและการแสดงออกทางความคิด และไม่สามารถใช้ภาษาที่ซับซ้อนได้
Band Score 3 - Extremely Limited User (มีความสามารถในการใช้ภาษาที่จำกัดมาก)
รู้และเข้าใจความหมายกว้าง ๆ ในสถานการณ์ที่คุ้นเคยและมีการหยุดชะงักในการสื่อสารบ่อย
Band Score 2 - Intermittent User (ไม่สามารถสื่อสารคำศัพท์ขั้นพื้นฐานได้)
ไม่สามารถสื่อสารเป็นเรื่องเป็นราวได้ พูดได้เป็นคำ ๆ เฉพาะคำคัพท์สั้น ๆ ที่คุ้นเคยเท่านั้น มีปัญหาในการทำความเข้าใจภาษาพูดและภาษาเขียน
Band Score 1 - Non-User (ใช้ภาษาไม่ได้เลย)
ไม่สามารถใช้ภาษาได้นอกจากคำศัพท์เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
IELTS Preparation
1. Listening Section:
- ในส่วนของการสอบฟังนั้นท่านควรฟังจนกว่าทุกอย่างจะจบลง โดยพยายามมองดูคำถามที่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่น้อง ๆ กำลังฟังอยู่ค่ะ
- น้อง ๆ อาจจะใช้ช่วงเวลาคั่นระหว่างการ Pause ในแต่ละช่วงของการเปลี่ยน Sections สำหรับการตอบคำถาม Set ต่อไปค่ะ โดยน้อง ๆ ควรจะตอบคำถามเรียงตามลำดับลงมา โดยให้พึงอยู่เสมอว่าปรกติแล้วคำถามนั้นจะเรียงลำดับตามข้อมูลใน Recording ค่ะ
- ในตอนท้าย น้อง ๆ จะมีเวลาระหว่างการส่งมอบกระดาษคำตอบ ให้น้อง ๆ ใช้เวลาช่วงนี้ในการตรวจทาน Grammar และ Spelling ของน้อง ๆ อีกครั้งหนึ่งค่ะ
2. Reading Section:
- ในส่วนของ Academic Reading นั้น แนะนำให้น้อง ๆ เริ่มต้นการอ่านอย่างรวดเร็ว (Skim Scan and Skip) ในแต่ละ Passage เพื่อน้อง ๆ จะได้ทราบถึง Topic สไตล์ของ Passage วัตถุประสงค์ของผู้เขียนค่ะ
- เวลาที่อ่านนั้นพยายามอย่านึกถึง หรือแปลทุกตัวอักษรหรือทุก ๆ คำที่น้องอ่าน เนื่องจากน้อง ๆ อาจไม่มีเวลาเพียงพอค่ะ โดยใน Task บางตัวนั้น อาจต้องการให้ใช้ Words จาก Text มาตอบ แต่ในทางตรงกันข้ามอาจจะต้องการให้ใช้คำพูดของน้องเองในการเขียนตอบค่ะ ดังนั้นน้อง ๆ ควรอ่าน Instruction อย่างระมัดระวังค่ะ
- สำหรับส่วนของ Instruction นั้น อาจจะจำกัดจำนวน Word ที่จะใช้ตอบด้วยค่ะ เช่น ห้ามใช้เกิน 3 Words เป็นต้น ดังนั้นน้องควรหลีกเลี่ยง Word ที่ไม่จำเป็นในคำตอบของน้อง ๆ ค่ะ
3. Writing Section:
- น้อง ๆ ควรพยายามนึกถึง Topic ที่น้องได้รับ และพยายามอย่าเตรียมเนื้อหาก่อนที่จะทำการสอบค่ะ
- ในคำถามที่ให้น้อง ๆ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหัวข้อหนึ่ง ๆ น้องควรแสดงความเห็นชัดเจนว่าท่านเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อย่าตอบไปทั้งสองแนวความคิด
- น้อง ๆ ควรพยายาม Organize และ Link ไอเดียของน้องอย่างเหมาะสม พยายามใช้ภาษาในการเขียนที่หลากหลาย เพื่อโชว์ความสามารถในการอธิบายไอเดีย และความคิดเห็นส่วนตัวของน้องค่ะ
- หากน้อง ๆ เขียนน้อยกว่า 150 Words ใน Task 1 หรือ น้อยกว่า 250 Words ใน Task 2 น้อง ๆ จะเสียคะแนนที่ควรจะได้ค่ะ แต่การสอบ Writing นั้นจะไม่จำกัด Maximum Words ค่ะ
- เมื่อน้อง ๆ Plan ได้แล้วว่าจะเขียน Essay ไปในทิศทางใด น้อง ๆ ควรเผื่อเวลาไว้พอสมควรสำหรับเวลาการตรวจเช็ค Essay ของน้องอีกครั้งหนึ่งค่ะ
4. Speaking Section:
- ตอบให้ตรงคำถาม
- พยายามพูดโดยใช้ Eye Contact กับผู้ทดสอบ อย่าให้ความสนใจกับเครื่องบันทึกค่ะ
- เมื่อน้อง ๆ ตอบ Yes หรือ No ควรแสดงเหตุผลอย่างชัดเจนค่ะ
- ในการสอบนี้ ข้อสอบไม่ได้วัดจากความรู้โดยทั่วไปของน้อง ๆ แต่จะวัดจากความสามารถในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพของตัวน้องค่ะ
- พยายามแสดงความคิดเห็น เหตุผลต่าง ๆ ให้สอดคล้องกัน พูดและอธิบายอย่างชัดเจน เคลียร์ พูดในระดับที่พอดี ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป และพยายามใช้โครงสร้างประโยคและคำศัพท์ที่หลากหลายค่ะ
5. Learn how to Relax! รู้จักผ่อนคลายและหาเวลาพักผ่อน
Before the Test:
The Day of the Test:
During the Test:
- ทิปส์นี้เป็นทิปส์ที่สำคัญมากทีเดียวค่ะ คนส่วนมากจะพบว่าการสอบ IELTS นี้สร้างความเครียดและกดดันให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก โดยสามารถบอกได้เลยว่าการสอบนี้ไม่ใช่การสอบที่ง่าย ดังนั้นน้อง ๆ ควรผ่อนคลายและทำใจให้เย็นระหว่างการสอบหรือก่อนสอบค่ะ
Before the Test:
- ถ้าเป็นไปได้ น้อง ๆ ควรจะไปดูสถานที่ที่จะไปสอบก่อนวันสอบของน้องจะมาถึงค่ะ เพื่อเช็คดูว่า สถานที่สอบนั้นอยู่ที่ไหน ใช้เวลาในการเดินทางเท่าไร และน้อง ๆ ควรเผื่อเวลาในการเดินทางเท่าไรค่ะ
- พยายามอย่าเครียด หรืออัดทุกอย่างเกี่ยวกับข้อสอบก่อนวันสอบจริง น้องควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อนการสอบค่ะ
The Day of the Test:
- ทานอาหารเช้าให้เรียบร้อยก่อนออกจากบ้าน และระหว่างการเดินทางมาสอบ น้อง ๆ ควรแน่ใจแล้วว่าน้องพร้อมสำหรับการสอบ โดยการ Warm-Up สมองของน้องให้ตื่นตัว โดยการอ่านอะไรซักอย่างเป็นภาษาอังกฤษประมาณ 30 นาที อาจจะเป็นหนังสือที่น้องเคยอ่านมาแล้วก็ได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองมากโดยการหาหนังสือยาก ๆ มาอ่านค่ะ
- หาเพลง ข่าว หรืออะไรก็ได้ที่บรรยายเป็นภาษาอังกฤษมาฟังค่ะ เพื่อสร้างความมั่นใจว่าน้องคิดทุกอย่างเป็นภาษาอังกฤษก่อนทำการสอบค่ะ
During the Test:
- สูดลมหายใจเข้าลึก ๆ มั่นใจว่าการหายใจของน้องเป็นปรกติ
- น้อง ๆ ควรนึกไว้เสมอค่ะ ว่าสามารถทำข้อสอบนี้ได้อีกครั้ง ดังนั้นอย่ากดดันตัวเองจนเกินไปค่ะ
6. Practice, Practice and Practice พยายามฝึกฝนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ
ทิปส์นี้เป็นทิปส์ที่ดีที่สุดที่น้อง ๆ ควรทำ ผู้สอบส่วนมากมักจะคอยมองหา Tricks หรือเคล็ดลับที่จะทำให้พวกเขาทำข้อสอบได้ แต่เมื่อน้องทราบถึงเคล็ดลับเหล่านั้นแล้วสิ่งเดียวที่จะทำให้น้องมั่นใจในการทำข้อสอบนั่นคือการฝึกฝนและทบทวนให้มากที่สุดค่ะ โดยจะแนะนำแหล่งข้อมูลที่จะทำให้น้องเตรียมความพร้อมได้เพิ่มมากขึ้นค่ะ
ทิปส์นี้เป็นทิปส์ที่ดีที่สุดที่น้อง ๆ ควรทำ ผู้สอบส่วนมากมักจะคอยมองหา Tricks หรือเคล็ดลับที่จะทำให้พวกเขาทำข้อสอบได้ แต่เมื่อน้องทราบถึงเคล็ดลับเหล่านั้นแล้วสิ่งเดียวที่จะทำให้น้องมั่นใจในการทำข้อสอบนั่นคือการฝึกฝนและทบทวนให้มากที่สุดค่ะ โดยจะแนะนำแหล่งข้อมูลที่จะทำให้น้องเตรียมความพร้อมได้เพิ่มมากขึ้นค่ะ
- น้องสามารถเข้าไปดูที่ free IELTS test sample questions เพื่อฝึกฝนและเพื่อให้คุ้นเคยกับแนวทางข้อสอบค่ะ
- อ่านเตรียมความพร้อมจากหนังสือที่แนะนำค่ะ IELTS Practice Materials