ข้อแนะนำการเตรียมตัวสอบโทเฟล (TOEFL)
การเตรียมตัวสอบ TOEFL นั้นไม่ยากเลย หากเราสามารถเตรียมตัวเป็นอย่างดี สามารถดูคำแนะนำ 10 ข้อได้ดังนี้ค่ะ
1. น้อง ๆ ควรทำความเข้าใจลักษณะของการสอบ TOEFL ว่าทดสอบด้านใดบ้าง
TOEFL (Test of English as a Foreign Language) เป็นการทดสอบความสามารถภาษาอังกฤษ โดยแบ่งออกเป็น 4 Parts ได้แก่ Reading, Listening, Speaking และ Writing Skills ค่ะ
สามารถดูระยะเวลาและจำนวนคำถามแต่ละส่วนได้ดังนี้ค่ะ
สามารถดูระยะเวลาและจำนวนคำถามแต่ละส่วนได้ดังนี้ค่ะ
- ในแต่ละ Part จะมีคะแนน 30 คะแนน คะแนนรวมจะเท่ากับ 120 คะแนน
- การทำเทสนี้จะไม่มีการวัดว่าน้องสอบผ่านหรือสอบตก แต่จะวัดจากคะแนนที่น้องได้ ว่าคะแนนที่น้อง ๆ ต้องการเพื่อใช้ในการศึกษาต่อคือเท่าไร หากน้องทำคะแนนเกินกว่าหรือเทียบเท่ากับที่ทางสถาบันการศึกษาของน้องนั้นต้องการ น้องก็จะมีคุณสมบัติพร้อมเข้าศึกษาที่สถาบันนั้น ๆ ค่ะ
- น้อง ๆ ควรตรวจเช็คให้แน่นอนก่อนการทำเทส เนื่องจากว่าบางสถาบันอาจจะต้องการคะแนนในแต่ละ Part ไม่เท่ากัน เช่น ต้องการ 24 คะแนนขึ้นไปสำหรับ Speaking Part ค่ะ หรือบางสถาบันอาจใช้คะแนนรวมทั้งหมดค่ะ เป็นต้น
- Website ทางด้านล่างนี้จะช่วยให้น้อง ๆ รู้จักกับการสอบ TOEFL มากขึ้นและจะช่วยน้อง ๆ เป็นอย่างมากในการเตรียมตัวสำหรับการทำเทสค่ะ
- TOEFL Go Anywhere
- TOEFL Tips
- Sample TOEFL questions
2. น้อง ๆ ควรเตรียมความพร้อมก่อนไปสอบ TOEFL เพื่อให้ได้ผลสอบดีที่สุด
- สำหรับการเตรียมตัวในการสอบนั้น น้อง ๆ ควรมีเวลาให้กับตัวเอง พยายามทบทวนทั้งการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยระยะเวลาของแต่ละคนจะไม่เท่ากันขึ้นกับระดับภาษาค่ะ นักเรียนที่ระดับภาษาอังกฤษขั้นสูงอาจจะใช้เวลาเพียง 2-4 สับดาห์ก็จะพร้อมสำหรับการสอบ นักเรียนที่ระดับภาษาอังกฤษไม่สูงมากก็จะใช้เวลานานมากหน่อยคะ
- น้อง ๆ ควรทราบว่าทางสถาบันที่ต้องการศึกษาต่อนั้นต้องการคะแนนเท่าใด จะได้มีเป้าหมายก่อนสอบค่ะ
- แนะนำให้ซื้อหนังสือ TOEFL ดี ๆ มาอ่านและฝึกทำคำถามต่าง ๆ จะได้ชำนาญค่ะ
- โดยหนังสือทางด้านล่างนี้ เป็นหนังสือที่จะช่วยให้น้อง ๆ เตรียมความพร้อมในการทำข้อสอบในแต่ละ Part ได้ดียิ่งขึ้นค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตัวอย่างข้อสอบ ข้อแนะนำในการทำข้อสอบต่าง ๆ
3. Practice Listening and Reading Actively อ่านและฟังทุกอย่างให้มาก ๆ
เมื่อท่านเตรียมตัวที่จะสอบ TOEFL แล้วนั้น การฟังและอ่านแต่สิ่งที่ท่านสนใจนั้นไม่เพียงพออย่างแน่นอนค่ะ ท่านจำเป็นต้องอ่านและฟังในเรื่องที่หลากหลาย เพื่อสร้างการจดจำ และเรียนรู้ในคำศัพท์ต่างๆได้กว้างขึ้นค่ะ ในการสอบ TOEFL นั้นท่านจะเป็นต้องอ่าน passages หรือ รับฟังจากผู้บรรยายค่ะ โดยเนื้อหาข้อสอบนั้นอาจจะมีตั้งแต่เรื่อง astronomy, American history ไปจนถึง psychology และ biology เลยค่ะ
- TOEFL ได้ร่วมกับทีม Lexile ซึ่งเป็นบริษัทที่คิดค้นโปรแกรมที่จะช่วยให้ท่านค้นหาหนังสือที่เหมาะกับทักษะในการอ่านของท่านค่ะ โดยหากท่านได้ทำการทดลองทำตัวอย่างข้อสอบไปแล้ว หรือเคยสอบมาท่านสามารถนำคะแนนที่ท่านได้ในส่วนของ reading ใส่ลงไปโปรแกรมนั้น ทางระบบจะช่วยประมวลผลและแนะนำท่านว่าท่านควรอ่านหนังสือประเภทใดให้เหมาะกับระดับทักษะในการอ่านของท่านค่ะ
- Audible.com เป็น website ที่ขาย audio books ออนไลน์ โดยท่านสามารถฟังจากทุกคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่รองรับมากมายโดยในเว็บนี้จะมีในส่วนของ University level courses ที่คุณสามารถซื้อเพื่อเข้าไปฟังได้โดยตรง โดยคอร์สนี้เรียกว่า The Great Courses โดยแต่ละคอร์สจะมีผู้บรรยายมาพูดให้ฟัง โดยแบ่งออกเป็นคอร์สต่างๆ เช่น Science, History, Economics, หรือ Entertainment ค่ะ โดยท่านจำเป็นต้องมี account ของ Amazon ก่อน เพื่อเข้าใช้บริการของ Audible.com ค่ะ
- ในส่วนของการฟังนั้น ท่านควรฟังข่าวสารจากสำนักข่าวต่างๆ เช่น BBC News, CNN, CBC, และ อื่นๆ เพื่อเป็นความรู้รอบตัวแก่ท่าน และฝึกทักษะในการฟังของท่านไปในตัวด้วยค่ะ โดยเว็บไซต์เหล่านี้จะรวมข่าวสารและบทความต่างๆที่น่าสนใจไว้มากมายคะ
- นอกจากนี้ท่านควรอ่านหนังสือที่รวบรวมคำศัพท์ประเภทต่างๆให้มากขึ้น โดยหนังสือทางด้านล่างนี้เป็นหนังสือที่แนะนำสำหรับการทบทวนคำศัพท์ที่เป็นประโยชน์ต่อการสอบ TOEFL ค่ะ โดยในหนังสือจะรวบรวมตัวอย่างข้อสอบใน part ต่างๆเอาไว้ โดยจะมากับ CD ที่ไว้ใช้ฟังสำหรับฝึกฝนในส่วนของ listening, speaking และ writing ค่ะ
- น้องๆสามารถยืมหนังสือโทเฟลได้มากมายที่ห้องสมุด Public Libraries ต่างๆคะ
4. เรียนรู้ทักษะในการฟังและจดบันทึกที่ดี
- ทักษะการในการฟังและจดบันทึกที่ดีมีความจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับในส่วนของ Listening, Speaking และ Writing sections ของการสอบ TOEFL ท่านควรเรียนรู้เทคนี้ในการจดใจความสำคัญๆ อย่างรวดเร็ว และ ถูกต้องคะ
- ในแต่ละ part ของข้อสอบ Listening นั้น ท่านสามารถฟังได้แค่เพียงครั้งเดียว โดยหลังจากฟังแล้วนั้นท่านจะต้องตอบคำถามโดยการพูดเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านได้ฟังมา และ การเขียนเกี่ยวกับสิ่งที่ได้ฟัง ทักษะในการฟังและจดบันทึกจึงสำคัญอย่างยิ่ง
- ในส่วนของ speaking section หรือเขียน essay บนพื้นฐานเรื่องที่ท่านได้รับฟังมาค่ะ ดังนั้นจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ท่านควรจะต้องฝึกฝนหรือค้นหาเทคนิคในการจดบันทึกที่เร็วและอยู่บนพื้นฐานความเข้าใจของท่านให้ดีค่ะ
- พยายามอย่าเขียนทุกอย่างที่คุณได้ยินลงไป และอย่าจดเฉาพะคำที่คุณเข้าใจ แต่ให้เขียนข้อมูลที่ท่านคิดว่าสำคัญและจำเป็นในการตอบคำถามในภายหลังค่ะ
- ใช้สัญลักษณ์หรือเครื่องหมายที่ท่านคิดขึ้นมาเพื่อให้ท่านประหยัดเวลาในการจดของท่าน
- ท่านสามารถฝึกฝนจากการฟังและจดบันทึกจาก website ที่ได้แนะนำท่านไว้ในหัวข้อที่ 3 ค่ะ จากนั้นลองเปรียบเทียบสิ่งที่ท่านจดกับ transcript ค่ะ โดยลองเริ่มจากคลิปสั้นๆและเพิ่มระยะเวลาขึ้นทีละนิดค่ะ
5. ท่านควรฝึกในการออกเสียงให้มีความชัดเจนให้มาก
ในการสอบ TOEFL นั้น ไม่จำเป็นต้องออกเสียงทุกอย่างให้ perfect แต่ท่านควรพูดให้ชัดเจนและสื่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจได้ค่ะ ในส่วนของ speaking section วัดจาก 3 สิ่งนี้ค่ะ
- คำตอบของท่านชัดเจนและตรงกับคำถามที่ถาม
- Grammar และ Vocabulary ที่ท่านใช้
- ความชัดเจนของการออกเสียง และสามารถสิ่อสารให้ผู้ฟังเข้าใจได้ค่ะ
- หากท่านมีอาจารย์หรือเพื่อนชาวต่างชาติ แนะนำให้ฝึกพูดอย่างสม่ำเสมอเพื่อความมั่นใจ และแนะนำให้ข้อคำแนะนำเพื่อให้เราสามารถปรับปรุงต่อไป
- หากท่านฝึกฝนในส่วนของ speaking section ด้วยตัวท่านเอง ให้บันทึกเสียงของท่าน เพื่อที่ท่านจะได้ทราบถึงการออกเสียงว่าเป็นอย่างไร และสามารถประเมินได้ว่าท่านบกพร่องตรงคำใด ส่วนใดค่ะ นอกจากนี้ท่านควรฝึกพูดโดยใช้คอมพิวเตอร์ให้เคยชิน เพื่อเวลาท่านสอบจะได้ไม่รู้สึกประหม่าค่ะ
6. ท่านควรฝึกพิมพ์ให้คล่อง โดยใช้ QWERTY Keyboard
- ท่านควรฝึกฝนการสัมผัส keyboard ให้คุ้นเคย
- ท่านพยายามฝึกการพิมเป็นภาษาอังกฤษโดยไม่มองที่ keyboard เพื่อเป็นการเซฟเวลาในการทำข้อสอบของท่านเอง เพื่อให้ท่านสามารถพิมพ์ได้เร็วขึ้นค่ะ
7. ท่านควร ฝึกการเขียน essay เพื่อพัฒนาทักษะในการเขียนภาษาอังกฤษ
- เริ่มแรกแนะนำว่าท่านควรอ่านหนังสือวิธีการเขียนเรียงความที่ถูกต้องโดยอาจจะซื้อหนังสือแนะนำการเขียน Academic Writing, TOEFL Writing Tips มาอ่านคะ จะได้ความรู้มากมายคะ
- โครงสร้างของการเขียนจะแบ่งเป็นส่วนหลักๆดังนี้คะ
- Introduction จะเป็น Paragraph แรกใน essay ของท่านจะเป็นส่วนที่จะบอกผู้อ่านถึงความคิดเห็นของท่าน รวมถึงสิ่งที่ท่านต้องการจะบอกใน essay ของท่านค่ะ
- Body – ประมาณ 2-3 paragraphs ขึ้นกับจำนวนเหตุผลของท่าน เพื่ออธิบายถึงเหตุผลต่างๆ มาสนับสนุนความคิดเห็นของท่าน โดยเขียนแต่ละเหตุผลแยกคนละ paragraph และ สามารถยกตัวอย่างเพื่อประกอบเหตุผลนั้นๆด้วยคะ
- Conclusion – เป็น paragraph ที่สรุปเนื้อหา หรือความคิดเห็นใน essay ของท่านค่ะ
Tips ในการเขียน essay ให้ได้คะแนนดีมีดังนี้ค่ะ
- ควรตอบให้ตรงคำถาม
- หากคำถามสอบถามความเห็นว่า เห็นด้วย หรือ ไม่เห็นด้วย ควรเลือกทางเดียว เพื่อให้คำตอบและเรียงความของท่านชัดเจน โดยแนะนำให้เริ่มจากการอ่านคำถามให้เข้าใจ จากนั้นแพลนโครงสร้างของคำตอบ และ เหตุผลเป็นข้อๆอย่างชัดเจน จากนั้นจึงพิมพ์โครงสร้างคำตอบและเหตุผลของท่านในคอมพิวเตอร์
- จากนั้นใช้เวลาที่มีอย่างมีประสิทธิภาพในการพิมพ์อธิบายแต่ละเหตุผล โดยความยาวของแต่ละย่อหน้าควรจะพอๆกัน เช่น 3-4 ประโยค
- การเขียนควรแสดงความเห็นชัดเจน และ ใช้คำที่เข้าใจง่าย
8. ท่านควรพยายามฝึกฝนให้ตนคล่องและพร้อมก่อนวันสอบคะ
การฝึกฝนทำข้อสอบโทเฟลควรฝึกให้ครบทั้งการฟัง, การพูด, การอ่าน, และ การเขียน ซึ่งควรฝึกสม่ำเสมอจนเรารู้สึกมั่นใจ หากมีเวลา ควรฝึกทำตัวอย่างข้อสอบทุกทักษะต่อเนื่องเพื่อให้เราพร้อมกับการสอบคะ
9. ท่านแบ่งเวลาในการอ่านหนังสือ, ตั้งมั่นอยู่ในสมาธิ และ ความคิดเชิงบวก, และ ผ่อนคลายก่อนวันสอบ
- ท่านควรจัดการเวลาอ่านหนังสือ, เวลาทานอาหาร, เวลาพักผ่อน, เวลานั่งสมาธิสงบจิตใจ, และ เวลาทำกิจกรรมต่างๆให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดความเครียด
- หากบริหารเวลาดีแล้ว ท่านจะสามารถทบทวนบทเรียนได้มาก และใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปรกติคะ
- ถ้าเป็นไปได้ ท่านควรจะไปดูสถานที่ที่ท่านจะไปสอบก่อนวันสอบของท่านจะมาถึงค่ะ และ เตรียมเอกสารสำคัญในการไปในวันสอบล่วงหน้า เช่น พาสปอรต
11. ในวันสอบ ท่านควรไปที่ศูนย์สอบโทเฟลด้วยความพร้อม ความมั่นใจ
The day of the test:
- ทานอาหารเช้าให้เรียบร้อย แนะนำให้ทานอาหารบำรุงสมองเช่น ไข่ และ ดื่มเครื่องดื่มที่ทำให้ท่านสดชื่น หากปรกติท่านทานไวตามิน แนะนำไวตามินรวม และ ไวตามิน B Complex คะ โปรดสอบถามเภสัชกรถึงข้อแนะนำไวตามินสำหรับท่านคะ
- แนะนำให้เผื่อเวลาออกเดินทางล่วงหน้า และไปถึงศูนย์สอบ 30 นาทีล่วงหน้า เพื่อทำการลงทะเบียนต่างๆ
- หากท่านต้องการ warm up สมองของท่านให้ตื่นตัว ท่านสามารถอ่าน หรือ ฟังข่าวเป็นภาษาอังกฤษ เป็นเวลา 30 นาที แต่หากท่านคิดว่าจะทำให้รู้สึกเครียด แนะนำให้ทำกิจกรรมที่เหมาะกับท่าน
During the test:
- ท่านควรทำสมาธิ และ สูดลมหายใจเข้าลึกๆ มั่นใจว่าการหายใจของท่านเป็นปกติ
- สำหรับการสอบนั้นจะมีเวลาพัก 10 นาที ระหว่าง Speaking กับ Listening sections เวลาพักนั้น ท่านควรไปเข้าห้องน้ำให้เรียบร้อย ยืดเส้นยืดสาย หรือหาขนมเล็กๆน้อยๆทานค่ะ
- ท่านควรนึกไว้เสมอค่ะ ว่าท่านสามารถทำข้องสอบนี้ได้อีกครั้ง ดังนั้นอย่ากดดันตัวเองจนเกินไปค่ะ